อาการไตเสื่อม
1. หนังตา ใบหน้า เท้า ขา
และลำตัวบวม
2. ซีด อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่มีแรง ไม่กระฉับกระเฉง
3. ปัสสาวะผิดปกติ เช่น ขุ่น เป็นฟอง เป็นเลือด สีชาแก่/น้ำล้างเนื้อ
4. ท้องอืด ท้องเฟ้อ คลื่นไส้ อาเจียน
5. การถ่ายปัสสาวะผิดปกติ เช่น บ่อย แสบ ขัด ปริมาณน้อย
6. เบื่ออาหาร การรับรสอาหารเปลี่ยนไป
7. ปวดหลัง คลำได้ก้อน บริเวณไต
8. ปวดศีรษะ นอนหลับไม่สนิท
9. ความดันโลหิตสูง
2. ซีด อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่มีแรง ไม่กระฉับกระเฉง
3. ปัสสาวะผิดปกติ เช่น ขุ่น เป็นฟอง เป็นเลือด สีชาแก่/น้ำล้างเนื้อ
4. ท้องอืด ท้องเฟ้อ คลื่นไส้ อาเจียน
5. การถ่ายปัสสาวะผิดปกติ เช่น บ่อย แสบ ขัด ปริมาณน้อย
6. เบื่ออาหาร การรับรสอาหารเปลี่ยนไป
7. ปวดหลัง คลำได้ก้อน บริเวณไต
8. ปวดศีรษะ นอนหลับไม่สนิท
9. ความดันโลหิตสูง
การป้องกันไตไม่ให้เสื่อม
1. ถ้ามีความดันเลือดสูง ต้องรีบรักษาอย่างเข้มงวด รักษาความดันเลือดไว้ให้ต่ำกว่า 130/80 มม.
2. ถ้าเป็นเบาหวาน ต้องรีบรักษาเข้มงวด ให้น้ำตาลในเลือดไม่เกิน 100 มก./ดล.ไว้เสมอ
3. ถ้ามีไขมันในเลือดสูง ก็ต้องรีบรักษาไขมันในเลือดสูงอย่างเข้มงวด ให้ไขมันเลว (LDL)
ไม่เกิน 100 มก./ดล.
4. ต้องรักษาน้ำหนักไม่ให้อ้วน ให้ได้เป้าหมายน้ำหนักที่คำนวณจากดัชนีมวลกาย
ซึ่งแพทย์จะคำนวณให้ในการตรวจร่างกายประจำปี
5. ถ้าสูบบุหรี่อยู่ ต้องเลิก
6. ดูแลร่างกายอย่าให้ขาดน้ำ ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1.5-2 ลิตร (6-8 แก้ว) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เวลาออกกำลังกายมากหรืออยู่ในที่ร้อนจัดต้องคอยดื่มน้ำให้มาก ถ้าท้องเสีย อาเจียน หรือมีไข้ ต้องรีบรักษา และดื่มน้ำเกลือแร่ทดแทนให้พอ (คำแนะนำนี้ยกเว้นกรณีเป็นโรคไตระยะสุดท้าย ที่มีอาการบวม ซึ่งแพทย์อาจให้จำกัดน้ำดื่มให้เหลือประมาณเท่าปัสสาวะที่ขับออกมาในแต่ละวัน)
7. หลีกเลี่ยงยาและสมุนไพรโดยไม่จำเป็น เพราะยาและสมุนไพรมีจำนวนมากที่เป็นพิษต่อไต
8. หลีกเลี่ยงการตรวจวินิจฉัยด้วยเอ็กซเรย์ชนิดที่ต้องฉีดสารทึบรังสี เพราะสารเหล่านี้เป็นพิษต่อไต
9. หลีกเลี่ยงการเสียเลือดที่ไม่จำเป็น อย่าเข้ารับการผ่าตัดถ้าเลือกได้ให้เลือกการรักษา
โดยไม่ต้องผ่าตัด
10.ถ้ามีโรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ เช่นติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ เป็นนิ่ว ปัสสาวะลำบาก
จากต่อมลูกหมากโต ต้องรีบรักษา เพราะถ้าปล่อยไว้อาจทำให้ไตเสียการทำงานมาก
11.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
1. ถ้ามีความดันเลือดสูง ต้องรีบรักษาอย่างเข้มงวด รักษาความดันเลือดไว้ให้ต่ำกว่า 130/80 มม.
2. ถ้าเป็นเบาหวาน ต้องรีบรักษาเข้มงวด ให้น้ำตาลในเลือดไม่เกิน 100 มก./ดล.ไว้เสมอ
3. ถ้ามีไขมันในเลือดสูง ก็ต้องรีบรักษาไขมันในเลือดสูงอย่างเข้มงวด ให้ไขมันเลว (LDL)
ไม่เกิน 100 มก./ดล.
4. ต้องรักษาน้ำหนักไม่ให้อ้วน ให้ได้เป้าหมายน้ำหนักที่คำนวณจากดัชนีมวลกาย
ซึ่งแพทย์จะคำนวณให้ในการตรวจร่างกายประจำปี
5. ถ้าสูบบุหรี่อยู่ ต้องเลิก
6. ดูแลร่างกายอย่าให้ขาดน้ำ ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1.5-2 ลิตร (6-8 แก้ว) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เวลาออกกำลังกายมากหรืออยู่ในที่ร้อนจัดต้องคอยดื่มน้ำให้มาก ถ้าท้องเสีย อาเจียน หรือมีไข้ ต้องรีบรักษา และดื่มน้ำเกลือแร่ทดแทนให้พอ (คำแนะนำนี้ยกเว้นกรณีเป็นโรคไตระยะสุดท้าย ที่มีอาการบวม ซึ่งแพทย์อาจให้จำกัดน้ำดื่มให้เหลือประมาณเท่าปัสสาวะที่ขับออกมาในแต่ละวัน)
7. หลีกเลี่ยงยาและสมุนไพรโดยไม่จำเป็น เพราะยาและสมุนไพรมีจำนวนมากที่เป็นพิษต่อไต
8. หลีกเลี่ยงการตรวจวินิจฉัยด้วยเอ็กซเรย์ชนิดที่ต้องฉีดสารทึบรังสี เพราะสารเหล่านี้เป็นพิษต่อไต
9. หลีกเลี่ยงการเสียเลือดที่ไม่จำเป็น อย่าเข้ารับการผ่าตัดถ้าเลือกได้ให้เลือกการรักษา
โดยไม่ต้องผ่าตัด
10.ถ้ามีโรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ เช่นติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ เป็นนิ่ว ปัสสาวะลำบาก
จากต่อมลูกหมากโต ต้องรีบรักษา เพราะถ้าปล่อยไว้อาจทำให้ไตเสียการทำงานมาก
11.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ ปู่จิงตัน(PUJINGTUN) สามารถป้องกันและแก้ปัญหา โรคไต
ไตวาย ได้ผลจริง
ปริมาณและราคา 1 ขวดบรรจุ 60 แคปซูล ราคา 900 บาท
อย. เลขที่ 13-1-02950-1-0036
สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายที่
คุณ วีระชัย ทองสา โทร.084-6822645
, 085-0250423
ID Line : weerachaicoffee
อีเมล์ weerachai.coffee@hotmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น